วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการประชุมชี้แจงกรอบการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2567
และแถลงผลสำเร็จจากการวิจัยและนวัตกรรม (NRCT Open House 2023) ด้านการรองรับสังคมสูงวัย
โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมฯ
เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม และกรอบการวิจัยและนวัตกรรมที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 27 มิถุนายน 2566 ในรูปแบบ onsite ณ ห้องจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ณ อาคาร วช.1 และในรูปแบบออนไลน์ผ่าน (VDO Conference) ด้วยระบบ Zoom การถ่ายทอดสด (Live Streaming) ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook ของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
1) นวัตกรรมทางสังคมเพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีพลังและยังประโยชน์ เพื่อการวิจัยและพัฒนารูปแบบนวัตกรรมทางสังคม เกิดการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อการคุ้มครอง ดูแล และส่งเสริมการใช้ศักยภาพของผู้สูงอายุ
2) เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง เพื่อการส่งเสริมการสร้างงานสร้างรายได้ที่เหมาะสมตรงตามทักษะของผู้สูงวัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ สร้างความตระหนักในคุณค่าของตนเอง และสร้างแรงจูงใจในการทำงานของผู้สูงอายุในรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไปในอนาคต
3) การพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย เพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ และช่วยเหลือการทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของวัยแรงงาน ผู้สูงอายุ และคนพิการ
4) การอยู่ร่วมกันของคนทุกช่วงวัย การวิจัยและพัฒนาแนวทางหรือมาตรการที่สนับสนุนการช่วยเหลือและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนทุกช่วงวัย ในการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายที่มีความสำคัญของแผนงาน ววน. ที่จะขับเคลื่อนภายใต้กรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566 – 2570 ถือว่าเป็นประเด็นที่
ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม วช. มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการวิจัยในด้านการรองรับสังคมสูงวัย เพื่อแก้ปัญหาและสร้างโอกาส พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขของคนไทยทุกคน รวมถึงพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
ประเด็น “การรองรับสังคมสูงวัย : โจทย์ท้าทายของสังคม” โดย คุณกอบกุล กวั่งซ้วน
ประเด็น “นวัตกรรมทางสังคมเพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีพลังและยังประโยชน์” โดย คุณศิริวรรณ อรุณทิพย์ไพฑูรย์
ประเด็น “การอยู่ร่วมกันของคนทุกช่วงวัย” โดย ศ.ดร.วิพรรณ ประจวบเหมาะ
ประเด็น “การพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย” โดย รศ. ดร.ศรีสวัสดิ์ ทรัพย์สมบูรณ์
และประเด็น “Impact Pathway ประเด็นสำคัญของการเขียนโครงการวิจัย” โดย ดร.มารยาท สมุทรสาคร
รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และ คุณศยามล ไชยปุรณะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิเคราะห์ ประมวลผล และบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ
รศ. ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ประเด็น “การมีงานทำของแรงงานสูงวัย” และโครงการวิจัย เรื่อง “การวางแผนและเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงอายุของแรงงานในพื้นที่ชนบท และเมือง”
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ประเด็น “สานพลังชุมชน สร้างมูลค่าเศรษฐกิจไทย” และโครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนากลไกความร่วมมือสานพลังชุมชนอย่างมีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของผู้สูงอายุในชุมชนอย่างยั่งยืน”
ว่าที่ ร.ต.ดร.อุดม สุวรรณพิมพ์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประเด็น “บูรณาการเครือข่าย เพื่อการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่” และโครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุโดยภาคประชาสังคม”
ดร.พศิน อิศรเสนา ณ อยุธยา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเด็น “นวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ” และโครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ช่วยการได้ยินในผู้สูงอายุ”
ผศ. ดร.รณพีร์ ชัยเชาวรัตน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเด็น “นวัตกรรมมุ่งเป้า ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน” และโครงการวิจัย เรื่อง “หุ่นยนต์สวมใส่บนร่างกายแบบใช้พลังงานต่ำผสานการขับเคลื่อนด้วยล้อเพื่อช่วยเหลือการเดินของมนุษย์”
ซึ่งกิจกรรมการเสวนาในวันนี้จะนำไปสู่แนวคิดในการจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยและนวัตกรรม ให้กับนักวิจัย และ ผู้ที่สนใจ ได้เห็นภาพของกรอบการวิจัยและนวัตกรรมด้านการรองรับสังคมสูงวัยในประเด็นต่างๆ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
1) ด้านการพัฒนาศูนย์กลางกำลังคนระดับสูงและศูนย์กลางการเรียนรู้ระดับอาเซียน
2) ด้านสังคมและความมั่นคง
3) ด้านการพัฒนาเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรมและการวิจัยเพื่อฐานทางวิชาการ
4) ด้านการรองรับสังคมสูงวัย
5) ด้านสัตว์เศรษฐกิจ
6) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
7) ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
8) ด้านเศรษฐกิจและการเกษตร และ
9) ด้านการจัดการความรู้การวิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ (KM)
ซึ่งการชี้แจงกรอบการวิจัย ทั้ง 9 ด้าน นั้น จะทำให้นักวิจัยได้รับทราบข้อมูล ที่สำคัญไปสู่การพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยในอนาคต
No comments:
Post a Comment