โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่านเปิดให้บริการศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องเฉพาะทางได้ในหลายโรค ตามสโลแกน “ผ่าตัดปลอดภัย มั่นใจไปกับเรา เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน” ทำให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัวสามารถยกระดับและดำเนินการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดซับซ้อนได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มารับการรักษาภาวะโรคอ้วน ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พศ.2567 ที่ผ่านมา
นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน เปิดเผยว่าด้วยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการก่อตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน มี 2 ประเด็นสำคัญ โดยสิ่งแรกคือการก่อตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเป็นโรงพยาบาลชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และเป็นพื้นที่การเข้าถึงบริการที่ยาก ดังนั้นการตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ส่วนประเด็นที่ 2 นอกจากเป็นโรงพยาบาลชุมชนแล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐาน
นพ.กิติศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน มีการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ 140 เตียง และมีการเพิ่มจำนวนเตียงมากขึ้น รวมถึงกำลังปรับปรุงก่อสร้างหอผู้ป่วยเพื่อรองรับบริการประชาชนทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน รวมถึงอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงและพี่น้องประชาชนจากประเทศลาว ในด้านการบริการทุกวันนี้มีแพทย์เฉพาะทาง ทั้งด้านอายุรกรรม ศัลยกรรมกระดูกและข้อ กุมารเวชกรรม สูตินรีเวช และสาขาย่อยทางการแพทย์ต่าง ๆ และในช่วง 2-3 ปีนี้ ได้นำความรู้ทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีด้านการผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคต่าง ๆ โดยศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง(MIS) ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน ในปัจจุบัน สามารถให้บริการทางการแพทย์ด้วยการผ่าตัดส่องกล้องสำเร็จได้ในหลาย ๆ โรค เช่น การผ่าตัดกระเพาะอาหารรักษาโรคอ้วน โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคไส้ติ่งอักเสบ โรคไส้เลื่อนขาหนีบ และการผ่าตัดเกี่ยวกับโรคลำไส้ต่าง ๆ โดยแพทย์เฉพาะทางโดยเฉพาะ
ด้าน นพ.จิรัฎฐ์ โชติรชตอนันต์ นายแพทย์ชำนาญการศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน (หมอเปิ๊ด) กล่าวว่า ปัจจุบันรพ.ได้ดำเนินการผ่าตัดผ่านกล้องได้ในหลายโรค เช่นการผ่าตัดผ่านกล้องในการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง หรือโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ผ่าตัดผ่านกล้องในพวกผู้ป่วยโรคมะเร็งตับหรือเนื้องอกที่ตับอ่อน มะเร็งทางเดินน้ำดี แล้วก็พวกมะเร็งท่อน้ำดีต่าง ๆ ล่าสุดที่รักษาในปัจจุบัน คือ การผ่าตัดส่องกล้องรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนแบบทุพพลภาพ โดยแพทย์ พยาบาลและบุคลากร ทุกคน พร้อมที่จะให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริการด้วยใจ เพื่อหวังให้ผู้ป่วย และประชาชนที่ต้องการมารับการรักษามีสุขภาพที่ดี โดยผู้ป่วยในละแวกพื้นที่ไม่ต้องเดินทางไปรักษารพ.ไกล ๆ จากที่พักพิง
ด้าน นพ.กฤตภาส กฤตพัฒนพงศ์ นายแพทย์ชำนาญการศัลยกรรม อนุสาขาการผ่าตัดผ่านกล้อง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน (หมอกัญจน์) กล่าวว่า ด้วยสโลแกน “ผ่าตัดปลอดภัย มั่นใจไปกับเรา เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน” ทำให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัวสามารถยกระดับและดำเนินการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดซับซ้อนได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มารับการรักษาภาวะโรคอ้วน ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พศ.2567 ที่ผ่านมา โดยโรคอ้วนนี้ ทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาหลาย ๆ โรค โดยเฉพาะโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรค Ncds เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น โดยโรคอ้วนเปรียบเสมือนเป็นโรคมะเร็งหรือมีความร้ายแรงเทียบเท่ากับโรคมะเร็งในระยะที่ 1 ซึ่งมักจะยังไม่แสดงอาการ
ส่วนศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ได้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 โดยการผ่าตัดที่ให้บริการผ่านกล้องได้แก่ 1.ถุงน้ำดี (Cholecystectomy) 2. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง (Colectomy) 3.ไส้เลื่อนขาหนีบและผนังช่องท้อง (Inguinal and ventral hernia) 4.ไส้ติ่งอักเสบ (Appendectomy) 5. ตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน (HBP surgery) 6. ต่อมหมวกไต (Adrenalectomy) 7. กระเพาะอาหาร (Gastrectomy) 8. ผ่าตัดช่องปอดผ่านกล้อง (VAT) 9.วางสายล้างท้อง (Tenckhoff implantation) 10. ใส่สายให้อาหาร (Feeding gastrostomy or jejunostomy) 11.โรคอ้วนทุพพลภาพ (Bariatric surgery) 12.ทำหมันหญิง (Salpingectomy) 13.ผ่าตัดซ่อมเอ็นไหล่และเอ็นเข่า (Arthroscopic) และ14.ส่องกล้องทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
No comments:
Post a Comment