1 มิถุนายน 2564 กรุงเทพฯ – ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ภายใต้บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) จับมือกับ มหาวิทยาลัยพะเยา โดยสถาบันนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ เดินหน้าขยายผลหอฟอกอากาศระดับเมืองเพื่อประชาชนสู่ภูมิภาค เปิดตัว “ฟ้าใส 2 (Fahsai 2) ที่ จ.พะเยา” ซึ่งนับเป็นหอฟอกอากาศระดับเมือง “ฟ้าใส แห่งที่ 3” ของประเทศไทย และนับเป็นครั้งแรกที่ “ฟ้าใส” ได้ติดตั้งในส่วนภูมิภาค เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในจังหวัดพะเยา
“พะเยาเป็นจังหวัดที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงติด 1 ใน 3 ของภาคเหนือ โดยแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่นในพะเยาเกิดจากการเผาชีวมวลในที่โล่ง และใน 2-3 ปีที่ผ่านมาปริมาณ PM2.5 สูงขึ้น บางวันสูงมากกว่า 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในพื้นที่เผาและพื้นที่ท้ายลม การหายใจฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 เข้าไปในร่างกาย ส่งผลต่อสุขภาพอย่างมาก เช่น ระบบทางเดินหายใจและปอด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในสมอง หลอดเลือดสมองตีบ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวจะมีความเสี่ยงสูงต่อการกำเริบของโรคยิ่งขึ้นได้ RISC ต้องการสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในการช่วยให้คุณภาพอากาศของภาคเหนือดีขึ้น และการมุ่งมั่นในการวิจัยเรื่องฝุ่นขนาดเล็ก เพื่อหาแนวทางร่วมกับพันธมิตรในการช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศทั้งในเขตเมืองและภูมิภาค “ฟ้าใส 2 พะเยา” มีศักยภาพในการฟอกอากาศและฆ่าเชื้อ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาคเหนือ โดยมีพะเยาเป็นจังหวัดนำร่อง รวมทั้งยังมีความร่วมมือด้านงานวิจัยศึกษาคุณภาพอากาศ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมและอนุภาคมลสารที่ปะปนอยุู่ในฝุ่น ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่เนื่องจากแหล่งที่มาของฝุ่นขนาดเล็กที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อสร้างองค์ความรู้เชิงนวัตกรรมและถ่ายทอดสำหรับหลายๆ พื้นที่ต่อไป” รศ.ดร.สิงห์ กล่าว
สำหรับหอฟอกอากาศระดับเมืองเพื่อประชาชน “ฟ้าใส 2 (Fahsai 2) ที่ จ.พะเยา” ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ “ฟ้าใส 2” บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ มักกะสัน กรุงเทพฯ โดยมีการทำงานด้วยระบบฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier Tower) ทำงานด้วยการนำพลังงานที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์มาใช้ร่วมกันกับระบบพลังงานไฟฟ้าภูมิภาค เพื่อลดภาระการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน ออกแบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางสุขภาวะและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น มีความพิเศษกว่า ฟ้าใสรุ่นแรก คือ เพิ่มความสามารถในการฆ่าแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสได้ โดยใช้รังสี UVC และโอโซน
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังขนาดของพัดลมออก จากเดิม 15,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เป็น 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จำนวน 4 ใบพัด รวมเป็น 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 สนามฟุตบอล แต่ลดขนาดของตัวเครื่องลง เหลือความสูงเพียง 5.10 เมตร และฐานกว้าง 2.40 เมตร เพื่อเข้าถึงพื้นที่ติดตั้งได้ง่ายขึ้น และประหยัดต้นทุนการก่อสร้างการปรับตำแหน่งพัดลมเป่าออก เพื่อป้องกันลมย้อนกลับมาในเครื่อง (Reversed Airflow) การออกแบบแผงดักความชื้นบริเวณช่องลมออกใหม่ เพื่อป้องกันละอองน้ำที่จะออกมาพร้อมกับลม การออกแบบแผงโซลาร์เซลล์ให้ปรับระดับได้ เพื่อควบคุมทิศทางลมสะอาดให้อยู่ในระดับใช้งานและระยะการทำงานไกลขึ้น รวมทั้งแผงโซลาร์เซลล์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแสงอาทิตย์ แผงจะกางออกเพื่อรับแสงแดดในเวลากลางวัน และจะหุบแผงในเวลากลางคืน พร้อมกับเปิดไฟส่องสว่าง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพื้นที่โดยรอบ
ทั้งนี้หอฟอกอากาศระดับเมือง “ฟ้าใส” รุ่นแรก (Fahsai)” ติดตั้งบริเวณ 101 True Digital Park ในปี 2563 และเมื่อต้นปี 2564 RISC by MQDC ได้เปิดตัวฟ้าใส รุ่นที่ 2 หรือ “ฟ้าใส 2 (Fahsai 2)” หอฟอกอากาศระดับเมืองเพื่อประชาชน ณ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ มักกะสัน เพื่อช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคในอากาศ และหวังเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศนี้สำหรับหลายๆ พื้นที่ต่อไป
No comments:
Post a Comment