กระบี่ ประเทศไทย – ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) บริษัทผู้นำด้านการวิจัยธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ เผยรายงานการท่องเที่ยว “กระบี่” โชว์ศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำความเชื่อมั่นสู่การเดินตามเข้าสู่นโยบาย “แซนด์บ็อกซ์” (Sandbox) หลังนำร่องที่ “ภูเก็ต” กรกฎาคมนี้
รายงาน Krabi Hotel Market Update ของ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ระบุข้อมูลว่า ในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เกือบครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในจังหวัดกระบี่มาจากต่างประเทศ แต่ถึงแม้จะมีการแพร่ระบาดและปิดประเทศ สนามบินของจังหวัดก็ยังมีผู้โดยสารมากกว่า 1 ล้านคนในปีที่แล้ว (2563) จึงทำให้เป็นปลายทางที่มีผู้โดยสารสนามบินสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ นอกจากนั้น ในปี 2562 กระบี่มีนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ (domestic visitors) สูงสุดที่เข้าพักในสถานประกอบการที่พัก โดยคนไทยคิดเป็น 43%
ตามที่ เจสเปอร์ ปาล์มควิส (Jesper Palmqvist) ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่ STR นักวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมโรงแรม กล่าวว่า “กระบี่ครองตลาดไทยได้มากที่สุดในช่วงวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์กลางเดือนเมษายน โดยมีอัตราการเข้าพักสูงสุดถึง 80% ในวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน สูงกว่าจุดหมายปลายทางอื่น ๆ เช่น เกาะสมุย และภูเก็ต ที่เพิ่มขึ้นเช่นกันในช่วงวันหยุด”
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมคาดว่า ตลาดต่างประเทศจะกลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นเฟส 2 ของนโยบาย “แซนด์บ็อกซ์” ทั้งนี้ ก่อนการระบาดของโควิด-19 กระบี่มีแขกเข้าพัก ณ สถานประกอบการที่พักถึง 4,186,069 คน (ในปี 2562) โดยกลุ่มนักเดินทางจาก “จีน” เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็น 14% รองลงมาคือตลาด “ยุโรป” ซึ่งมีส่วนแบ่ง 27% โดยเฉพาะจากสหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส
บิล บาร์เน็ต (Bill Barnett) กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์โฮเทลเวิร์คส์ สะท้อนความรู้สึกเจ้าของโรงแรมกระบี่และผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายราย ชี้ว่า “มีความหวังจาก “Sandbox” ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ แต่ก็มีความสงสัยว่า มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปหรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่? ทว่า การขายห้องพักของกระบี่ยังคงเกิดขึ้นจากตลาดหลักของ “สโนว์เบิร์ด” (Snowbird) ในยุโรปเหนือ ซึ่งคาดว่า จะกลับมาในปลายปีนี้ ถึงต้นปี 2565 โดยเฉพาะ “เกาะลันตา” จุดหมายปลายทางที่โดดเด่นของกระบี่ ที่ครอบครัวชาวสแกนดิเนเวียอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ถึงกับตั้งโรงเรียนฤดูหนาวสำหรับบุตรหลานของตนบนเกาะนี้”
นอกจากนั้น ในรายงานยังระบุอีกว่า จากเดิมอุปทานโรงแรมที่มีอยู่ในกระบี่ส่วนมากเป็นโรงแรมระดับกลางที่ไม่มีแบรนด์ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ “กระบี่” จะมีโครงการโรงแรม รีสอร์ท และที่พักแบรนด์โรงแรมระดับสากล กำลังจะเข้ามาเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเติบโตของกระบี่ที่จะมีอสังหาริมทรัพย์ระดับบนและหรูหราที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งกระบี่จะได้รับประโยชน์จากการรับรู้จุดหมายปลายทางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มตลาดที่มีความหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน
โครงการโรงแรมในอนาคตของกระบี่ (Krabi Hotel Pipeline) มีโรงแรมที่โดดเด่นที่กำลังจะเปิดตัวอยู่ 5 แห่ง รวมทั้งหมด 1,096 ห้อง และทั้งหมดเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Hilton Garden Inn Krabi Ao Nang, Holiday Inn Express Krabi Downtown, Mövenpick Resort Ao Nang Krabi, Novotel Krabi Ao Nang และ Club Med Krabi
ดาวน์โหลดรายงาน C9 Hotelworks Krabi Hotel Market ได้ที่:
https://www.c9hotelworks.com/wp-content/uploads/2021/06/2021-06-krabi-hotel-market-update.pdf
No comments:
Post a Comment