คิดการใหญ่ COL สบช่องตลาดออนไลน์โตไม่หยุด ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ Start Up ไทย มุ่งสู่ธุรกิจ Omni Channel และ Omni Logistics เต็มรูปแบบ - The Siamese

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Tuesday, October 3, 2017

คิดการใหญ่ COL สบช่องตลาดออนไลน์โตไม่หยุด ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ Start Up ไทย มุ่งสู่ธุรกิจ Omni Channel และ Omni Logistics เต็มรูปแบบ


ซีโอแอล (COL) สบช่องตลาดออนไลน์ทรูชุดไม่อยู่ เปิดตัว สตาร์ทอัพ (START UP) สัญชาติไทย เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB Corporation) ขึ้นแท่นผู้นำตลาด E-book Marketplace ล่าสุดเสริมทัพความแกร่งรับไตรมาส 4 จับมือพันธมิตรธุรกิจไฮเท็คซ์ (Hytexts.com) ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น E-Reader ที่ตอบโจทย์ผู้อ่านครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ พิกซีพี (PIXIPE) ครีเอทิฟมาร์เก็ตเพลส ชวนนักออกแบบ-ดีไซเนอร์ สร้างสรรค์ผลงานสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องหาแหล่งเงินทุน มั่นใจสิ้นปีปิดยอดขาย (GMV : Gross Merchandise Value) 400 ล้านบาท (ยอดรวม MEB + PICIPE)

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การทำตลาดของซี โอแอล และธุรกิจในเครือว่า ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายเป็นต้นไปจะเดินหน้าโฟกัสไปที่การเป็น ออมนิแชนเนล Omni Channel โดยผนึกกำลังกับธุรกิจการค้าในช่องทางปกติร่วมกับช่องทางออนไลน์ แบบไร้รอยต่อโดยที่ผ่านมาเราก็ ได้รุกตลาด E-marketplace ด้วยการเปิดตัว เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB Corporation) เมื่อ 6 ปีก่อน เพื่อทำแอฟพลิเคชั่นขายหนังสือออนไลน์ โดยตอนนี้ธุรกิจ เมพ (MEB) ก็ได้กลายเป็นสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสอดคล้องกับเทรนด์ออนไลน์ที่เติบโตทั่วโลก

"ทั้งนี้จากกลยุทธ์ดังกล่าวของบริ ษัท ซีโอแอล-COL มั่นใจว่า ยอดขายในปี 2561 จะเติบโตกว่า 13,000 ล้านบาท หรือโต 10 เปอร์เซนต์ จากปัจจุบันที่มียอดขายราว 12,000 ล้านบาท หรือเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 7-8 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจออนไลน์ รวมทั้งจาก เมพ คอร์ปอเรชั่น ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง หลายปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ยอดขายส่วนใหญ่ก็ยังมาจากสองธุรกิจหลัก คือ ออฟฟิศเมท (OfficeMate) และ บีทูเอส (B2S) ที่ต้องมีการปรับตัวรุกตลาดต่างประเทศและตลาดออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน" นายวรวุฒิ กล่าวเสริม

นายรวิวร มะหะสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า นับจากที่เมพ (MEB) ได้เปิดตัวมากว่า 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ยอดขายของบริษัทได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกปี สอดคล้องกับกระแสการเติบโตของโลกออนไลน์ ที่ในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมทำธุรกิจ ซื้อ-ขายสินค้า หรือแม้กระทั่งอ่านหนังสือบนโลก ออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น ที่ทำธุรกิจ ร้าน E-book สะดวกซื้อสัญชาติไทย และเป็นหนึ่งผู้บุกเบิกธุรกิจรายแรก ๆ ที่อยู่บนแอพพลิเคชั่นขายหนังสือออนไลน์ และขึ้นแท่นธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีอนาคตไกล ซึ่งปัจจุบัน เมพ-MEB เป็นแอพพลิเคชั่นของคนไทยที่ทำรายได้สูงสุดใน App Store ประเทศไทย และมียอดขายอันดับ 1 ในหมวดหนังสือ Book ของ App Store ในประเทศไทยติดต่อกันกว่า 2 ปี ทั้งยังเคยติดอันดับ 1 หมวด Book มาแล้วอีกกว่า 34 ประเทศทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยี่ยม เยอรมนี ฟินแลนด์ อิตาลี ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ และมียอดขายเติบโตต่อเนื่องนับจ ากก่อตั้งบริษัท ทั้งนี้ในปี 2559 ที่ผ่านมา เมพ คอร์ปอเรชั่น สามารถพิชิตยอดขายได้ถึง 267 ล้านบาท มั่นใจว่าจากกระแสการเติบโตของโลกออนไลน์ในปัจจุบันที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ เมพ (MEB) เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต และคาดว่าปิดไตรมาสสุดท้ายจะมียอดขาย (GMV) รวมทุกประเภทไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท อย่างแน่นอน

นายรวิวร ได้เปิดเผยถึงปัจจัยที่ทำให้ เมพ (MEB) ประสบความสำเร็จ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองที่สุดในชั่วโมงนี้ มาจากกระแสการเติบโตของโลกออนไลน์ และตลาด E-book ในไทยที่ยังมีช่องว่างที่จะเติบโตอีกมาก จากพฤติกรรมนักอ่านที่นิยมอ่านหนังสือจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มากขึ้น สอดรับกับความสะดวกสบายจากวิธีการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่จำกัดแค่บัตรเครดิต แต่รวมไปถึงการชำระทางบัตรเดบิต เงินโอน และเคาน์เตอร์เซอร์วิส อีกทั้งการพัฒนาระบบที่สามารถรองรับการใช้งานของทุกกลุ่มนักอ่าน ทุกเพศ ทุกวัย ผนวกกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง เรามั่นใจธุรกิจ E-book จะเติบโตอย่างมั่นคง เฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปีได้อย่างไม่ยาก

นอกจากนี้ เมพ (MEB) ยังเป็นที่รวบรวมหนังสือทุกแนวให้เลือกตามความต้องการกว่า 60,000 เล่ม และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีกว่า 70,000 เล่มจากหลากหลายสำนักพิมพ์ เรียกได้ว่าครอบคลุมกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ของสำนักพิมพ์ที่ส่วนใหญ่ในประเทศไทยทั้งหมดมาไว้ที่ เรานอกจากนี้เรายังได้รวบรวมผลงานของนักเขียนชื่อดัง ทั้งในอดีตและปัจจุบันมานำเสนอในรูปแบบ E-book เพื่อตอบสนองความต้องการของนักอ่านที่หลากหลาย ทั้งวรรณกรรม นวนิยาย สารคดี ท่องเที่ยว บทเรียน ปรัชญา แนวคิด การ์ตูน นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ฯลฯ จึงมั่นใจว่า เมพ (MEB) จะสามารถตอบสองทุกความต้องการของนักอ่านบนโลกออนไลน์ได้อย่างครบถ้วน เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงในธุรกิจ E-book ที่ยากที่ใครจะตามทัน และเพื่อตอบสนองความต้องการของนักอ่านอย่างไม่หยุดยั้ง เมพ (MEB) ตั้งใจที่จะเพิ่มจำนวน E-book ให้ได้ถึง 100,000 เล่ม ภายในสามปี หรือภายในสิ้นปี 2563 นี้

ทั้งนี้ เมพ (MEB) ยังมองอีกว่า ยังมีโอกาสที่จะขยายกลุ่มลูกค้าที่นิยม E-book จากปัจจุบันได้อีกมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในช่ว งวัย 20-40 ปี คาดการณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้จะมีแนวโน้มที่กลุ่มลูกค้าจะมีช่วงอายุที่กว้างขึ้น ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และเพื่อตอบสนองนักอ่านให้ได้เพลิดเพลินกับการอ่าน E-book อย่างไร้ขีดจำกัด เมพ คอร์ปอเรชั่น จึงได้ผนึกกำลังกับ ไฮเท็คซ์ (Hytexts.com) ร่วมกันขยายตลาด E-Reader เพื่อตอบสนองความต้องการของนักอ่านให้สนุกและเพลิดเพลินกับการอ่าน E-book มากขึ้น ซึ่งการอ่านผ่าน E-Reader จะให้ความรู้สึกเหมือนการอ่านบนกระดาษจริง ๆ และยังช่วยถนอมสายตาผู้อ่านได้อีกด้วย ทั้งนี้ผู้อ่านยังสามารถเลือกรูปแบบอักษร ขยายขนาด และปรับพื้นหลังได้ตามใจ ทั้งยังช่วยถนอมสายตาผู้อ่านได้ อีกด้วย ซึ่งการจับมือกับ ไฮเท็คซ์-Hytexts.com ครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ เมพ (MEB) ครองแชมป์เป็นแอพพลิเคชั่น E-book อันดับหนึ่งของเมืองไทย และเจาะกลุ่มผู้อ่านได้มากขึ้น โดยในส่วนของไฮเท็คซ์ (Hytexts.com) เองก็จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นจากการที่ เมพ (MEB) มีหนังสือให้เลือกอย่างมากมายรองรับความต้องการของนักอ่านได้อย่างทั่วถึง

ล่าสุด เมพ (MEB) พร้อมเดินหน้าขึ้นแท่นการเป็นผู้นำธุรกิจบนโลกออนไลน์ โดยแตกไลน์จากธุรกิจ E-Book สู่การเปิดช่องทางการทำธุรกิจให้ กับ ครีเอทีฟและดีไซน์เนอร์ บนพื้นที่ของ พิกซีพี (PIXIPE) ครีเอทีฟ มาร์เก็ตเพลส ให้เป็นพื้นที่ในการนำผลงานสร้า งสรรค์มาผลิตเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ โดยที่ไม่ต้องลงทุนใด ๆ เพียงแค่มาปล่อยความคิดที่ พิกซีพี (PIXIPE) แล้ว พิกซีพีจะเป็นผู้สานฝันช่วยต่อยอดธุรกิจให้ตั้งแต่นำไอเดีย มาขึ้นชิ้นงาน และเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ โดยผู้สร้างสรรค์ผลงานจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายสินค้าได้ โดยไม่ต้องลงทุนเองแต่อย่างใด

"กลุ่มธุรกิจใหม่นี้ เรียกได้ว่า จะเป็นตัวช่วยชั้นยอดให้กับครีเอทเตอร์-ดีไซน์เนอร์ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เพียงแค่คุณมีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการก็สามารถปล่อยของกับเรา แล้วทุกอย่างที่เป็นเรื่องของธุรกิจ เราพร้อมจัดการให้ รวมไปถึงการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ที่เป็นธรรม ที่จะช่วยสร้างกำลังใจให้นักออกแบบไม่หยุดยั้งที่จะนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ออกมาสู่สาธารณะต่อไป" นายรวิวร กล่าว

ทั้งนี้ พิกซีพี (PIXIPE) จะเป็นอีกหนึ่งความหวังของธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยหลังจากที่พิกซีพี (PIXIPE) ได้เปิดตัวทดลองตลาดมาแล้วกว่า 3 เดือน ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งนักออกแบบ ครีเอทเตอร์-ดีไซน์เนอร์ ที่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานเพื่อนำสินค้าขึ้นมาวางจำหน่าย โดยปัจจุบันมี ครีเอทเตอร์ –ดีไซน์เนอร์ กว่า 200 ราย เป็นสมาชิกร่วมออกแบบผลงานสร้าง สรรค์ของตัวเอง และมีสินค้ากว่า 5,000 ชนิดสินค้า อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า ของตกแต่งบ้าน สินค้าแฟชั่น และไลฟ์ไตล์ วางจำหน่ายแล้วบนเว็บไซด์ของเรา

ทั้งนี้ ในปีหน้าคาดว่าจะมีครีเอทเตอร์–ดีไซน์เนอร์ หรือนักสร้างสรรค์มาร่วมงานกับเรากว่า 1,000 ราย และจะสามารถผลิตเป็นสินค้าเพื่อจัดจำหน่ายมากกว่า 20,000 ชนิดสินค้า และพิกซีพี (PIXIPE) จะเปิดคอนเนอร์ให้บริการในร้านบีทูเอสกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ

นายวรวุฒิ กล่าวปิดท้าย จากความตั้งใจจริงของ เมพ (MEB) ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจออนไลน์มากว่าทศวรรษ จนกลายเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจและนำกลยุทธ์ออมนิแชนแนลมาใช้เป็นรายแรก ๆ ของประเทศไทย เรามั่นใจว่า เมพ (MEB) ร้าน E-book สะดวกซื้อสัญชาติไทย จะเป็นสตาร์ทอัพที่มีอนาคตไกลซึ่งจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งนับจากนี้ และพร้อมจะที่นำพาธุรกิจในกลุ่ม อย่าง พิกซีพี (PIXIPE) ครีเอทีฟ มาร์เก็ตเพลส รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับ Hytexts.com ผู้นำด้านการพัฒนาแอพพลิเคชั่น E-Reader ให้เติบโตไปพร้อมกันในไตรมาสสุดท้ายและปีถัดไปผ่านกลยุทธ์ที่เราวางไว้ในช่องทางการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่น่าจับตามองแบบ ออมนิแชนแนล และออมนิโลจิสติกส์ อย่างเต็มรูปแบบ

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages