จากสถานการณ์วิกฤตด้านเศรษฐกิจ ซ้ำร้ายการเเพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลับมาอีกระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดระยอง สร้างความวิตกกังวลให้เเก่นักลงทุนเเละประชาชน ทั้งภายในเเละจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก สภาอุตหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จึงได้พาสื่อสัญจรลงพื้นที่ชุมชนจังหวัดระยอง สร้างความมั่นใจว่าพื้นที่ในจังหวัดยังคงปลอดภัยไร้การเเพร่เชื้อโรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยกิจกรรม กิน-ดื่ม-เที่ยว ในครั้งนี้ สทท. ได้พาเยือนเเหล่งเรียนรู้ดีเด่นด้านเศรษฐกิจพอเพียง สัมผัสวิถีบ้านนอกในมุมเรียบง่าย เเต่ไม่ล้าหลัง ณ บ้านจำรุง ตำบลเนินฆ้อ อำเภอเเกลง ซึ่งถือเป็นพื้นที่เรียนรู้การเกษตรต้นเเบบฉบับชาวบ้านต้น ที่จัดตั้งขึ้นจากการพึ่งพาตนเองตามธรรมชาติของคนชุมชน ในพื้นที่มีทั้งโฮมสเตย์ รถรางชมสวน เเปลงเกษตรปลอดสารเคมี มีความน่าสนใจที้หลากหลาย สมฉายามหาวิทยาลัยบ้านนอกเมืองระยอง
จากนั้นล้อหมุนต่อไปยัง"บ้านมาบเหลาชะโอน" หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เเหล่งจักสานบ้านกวีหมู่5 ตำบลซากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ศูนย์รวมภูมิปัญญาเก่าเเก่ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานกว่า200 ปี จากกระจูดสู่เครื่องสานที่เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเช่นทุกวันนี้
โดยกิจกรรมพาสื่อสัญจรในครั้งนี้ คณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปพัก ณ ตำนานป่า รีสอร์ท ภายใต้การสนับสนุนจาก นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายบรรเจิด อัญชลิพงศ์ ผู้บริหารโรงแรม เดอะบาซาร์ รัชดาภิเษก โดยมีนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ ให้การต้อนรับ
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงกิจกรรมสัญจรในครั้งนี้ว่าเป็นหนึ่งในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจพื้นที่จังหวัดระยองในมิติด้านการท่องเที่ยวให้กลับมาเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีการคลายล็อก และเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาในพื้นที่บ้างแล้วก็ตาม แต่การที่นักท่องเที่ยวได้ยกเลิกการเดินทาง 100% ส่งผลกระทบในพื้นที่ใกล้เคียงในแถบจังหวัดทางภาคตะวันออกที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพียง 30% เท่านั้น แนวทางแก้ปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกว่า 8,000 ราย เข้ารับการตรวจคัดกรองแล้ว พบว่าไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19 ตนเองเป็นชาวจังหวัดระยอง ขอยืนยันว่าในขณะนี้ จังหวัดระยองปลอดภัย เที่ยวได้ 100% และจะต้องการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองให้กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทางจังหวัดจะเน้นการส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวภายใน แต่ก็ยังต้องการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งหากยังไม่มีเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ก็จะส่งผลกระทบให้กับศูนย์การท่องเที่ยวอย่างมหาศาล ทั้งนี้ในปี 2562 ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 3.3 ล้านล้านบาท ต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นรายได้จากคนไทย ที่ออกมาท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 1 ล้านล้านบาท ส่วนที่เหลือ เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะที่ รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 มีรายได้เข้าประเทศ เพียง 4 แสนล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2 และ 3 รายได้จากต่างชาติเป็นศูนย์ และหากไตรมาสสุดท้ายปีนี้ รัฐบาลเปิดประเทศ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากขึ้นและมีการใช้จ่ายมากขึ้นในประเทศ รายได้ก็จะกลับมาดังเดิม
ประธาน สทท. ยังได้ย้ำชัดถึงก้าวต่อไปของหน่วยงาน คือการรุก 5 ภูมิภาค เดินหน้านโยบายการท่องเที่ยวเเบบ New Normal โดยสร้างการรับรู้เเนวคิดดังกล่าวควบคู่ไปกับการทำ Social distancing รวมทั้งการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ( SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration) ซึ่งเป็น โครงการยกระดับความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค ,กรมอนามัย ,กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ เพื่อเป็นเครื่องการันตีให้กับนักท่องเที่ยวว่า หากเห็นโลโก้ SHA ก็ยืนยันได้ว่าผู้ประกอบการรายนั้น ทำตามเงื่อนไขของรัฐ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่เสี่ยงต่อการติดโรคระบาดอีกด้วย
ด้าน นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง ระบุว่า หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ปัจจุบันไม่มีการติดเชื้อ และระยอง OK ปลอดภัย สามารถท่องเที่ยวได้ 100% ซึ่งทางจังหวัด ก็ได้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ล่าสุดทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ตอบรับจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษขึ้น 2 คู่ด้วยกัน โดยคู่แรกเป็นทีมรวมดารา ปะทะกับทีม VIP คณะรัฐมนตรี ส่วนคู่ที่2 เป็นทีมระยอง เอฟซี ปะทะแข้งกับทีมชลบุรี เอฟซี ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยทั้ง 2 คู่ จะจัดการแข่งขันกันแบบมีผู้ชมภายใต้เงื่อนไขการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ออกโรงจัดกิจกรรม Happy Bike ไร้โควิด ในรูปแบบ New Normal ขึ้น ปลุกกระเเสสุขภาพเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจัดในช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม 2563 ณ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส จังหวัดระยอง ภายใต้ข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรฐาน SHA โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการชุมชน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ
โดยกิจกรรม Happy Bike ไร้โควิด เเบ่งออก 2 ประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1 การปั่นจักรยานท่องเที่ยว “ตามประแส” ในวันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นกิจกรรมการปั่นจักรยานชมทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอประแส จังหวัดระยอง เริ่มต้นจาก อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส-วนขึ้นสะพานประแสสิน- เลี้ยวซ้ายไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวแหลมสน-วนกลับทางเดิม แวะวัดตะเคียนงาม รับฟังเรื่องราวจากมัคคุเทศก์น้อย- ข้ามสะพานหนามโพง ไปสักการะศาลกรมหลวงชุมพร-ขากลับปั่นเข้าตลาดปะตุ๊ ชิมขนมท้องถิ่น-กลับมาจบกิจกรรมที่อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ระยะทางรวม 15 กิโลเมตร ซึ่งในเส้นทางปั่นจักรยานจัดให้มีจุดชิมขนมท้องถิ่นจากฝีมือชาวบ้านชุมชนปากน้ำประแส ที่นำมาต้อนรับคณะนักปั่น เช่น ขนมชารส, ข้าวเกรียบอ่อน (โบราณ), ขนมตะไล, ขนมเบื้อง และตบท้ายด้วย “น้ำชาใบขลู่” ของดีขึ้นชื่อในอำเภอประแส เพื่อให้นักปั่นได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชุมชนปากน้ำประแส มีการสนับสนุนโครงการมัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนวัดตะเคียนงามมาเล่าเรื่องราวของประวัติ ต้นตะเคียนใหญ่อายุ 500 ปี
ประเภทที่ 2 การปั่นจักรยาน “TEAM TOGETHER” ในวันที่ 2 สิงหาคม 2563 เป็นกิจกรรมการปั่นจักรยานทางไกลแบบไปด้วยกัน ไม่ทิ้งกัน เริ่มต้นจาก อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส-ถนนบูรพาชลทิต-จุดชมวิวเนินนางพญา-ปั่นวนกลับเส้นทางเดิม ระยะทางรวม 75 กิโลเมตร ระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandfestival.org
No comments:
Post a Comment