กรณีศึกษาการใช้ AI เพื่อการตรวจสอบคุณภาพอย่างแม่นยำ ของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ฟันเฟืองทั้งหมด - The Siamese

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Sunday, February 14, 2021

กรณีศึกษาการใช้ AI เพื่อการตรวจสอบคุณภาพอย่างแม่นยำ ของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ฟันเฟืองทั้งหมด

 





ปัญหาที่พบ

ก่อนหน้านี้ Nanjing High Accurate Drive Equipment Manufacturing Group (NGC) ได้ดำเนินการตรวจสอบ คุณภาพผลิตภัณฑ์โดยให้เจ้าหน้าที่เลือกสุ่มตัวอย่าง ด้วยตนเอง นั่นหมายความว่ายังมีปัญหาการทำงาน ที่ขาดประสิทธิภาพ ผลการตรวจสอบที่ผิดพลาดและสินค้าที่พลาดการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังไม่สามารถติดตามหาสาเหตุของข้อบกพร่องได้

โซลูชัน

INESA Intelligent Technology (IIT) ได้ร่วมมือกับ Fujitsu R&D Center (FRDC) เพื่อสร้างชุดโซลูชันการวินิจฉัยอัจฉริยะ จาก Physical-AI Hybrid Model ทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้

อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้ NGC เปลี่ยนแปลงและอัปเกรดรูปแบบการตรวจสอบคุณภาพ

โดยไม่มีภาระงานเพิ่มเติม



ประโยชน์

§ มีระบบทดแทนการตรวจสอบแบบดั้งเดิมที่อาศัย การสุ่มตัวอย่างเอาเอง ทำให้ได้การตรวจสอบผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ

§ ประสิทธิภาพในการตรวจสอบเพิ่มขึ้น 30 เท่า สามารถเพิ่มอัตราการตรวจจับสินค้าที่ด้อยคุณภาพและข้อบกพร่องได้ถึงกว่า 99%

§ ตรวจหาย่านความถี่ของข้อผิดพลาดและตรวจสอบ ย้อนกลับไปถึงสาเหตุของข้อบกพร่องจนไปถึงแหล่ง ที่มาในกระบวนการผลิต

§ การสร้างกราฟองค์ความรู้ ทำให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพ ได้รับทักษะและประสบการณ์ในระดับสูง

Nanjing High Accurate Drive Equipment Manufacturing Group Co. , Ltd. (NGC) NGC มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหนานจิงประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1969 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ส่งกำลังลม (wind power transmission equipment) อันดับหนึ่งของประเทศและอันดับสามของโลก นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ฟันเฟืองชั้นนำของอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพที่เชื่อถือได้ และให้บริการเต็มรูปแบบ NGC ได้กลายเป็นองค์กรตัวอย่างสำหรับนวัตกรรมทาง เทคนิคในประเทศจีน แบรนด์ NGC ค่อยๆ มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศจีน และ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในฐานะหนึ่งในบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดในอุตสาหกรรม

สินค้าและบริการ

§ โซลูชันการวินิจฉัยอัจฉริยะจาก Physical-AI Hybrid Model

§ กราฟองค์ความรู้สำหรับข้อบกพร่องและความผิดพลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

โมเดลการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตรวจสอบคุณภาพ ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ฟันเฟืองและอุปกรณ์ส่งกำลังชั้นนำ NGC คือผู้ผลิตสินค้าและบริการอันดับหนึ่งให้กับผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่ทั่วโลก บริษัทได้ช่วยให้ครัวเรือน หลายล้านครัวเรือนทั่วโลกเข้าถึงพลังงานสะอาดที่มีความน่าเชื่อถือ และเพื่อป้องกัน ไม่ให้ผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องเข้าสู่ตลาด NGC จำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์ฟันเฟืองก่อนที่สินค้าจะออกจากโรงงาน และกระบวนการนี้ต้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิต

Chen Chao หัวหน้าแผนกตรวจสอบของ NGC กล่าวว่า “เราผลิตอุปกรณ์ฟันเฟืองหลายร้อยชิ้นทุกวัน ผู้ตรวจสอบคุณภาพแต่ละคนจะตัดสินว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่โดยการสุ่มทดสอบสินค้าด้วยตนเอง แม้แต่ผู้ตรวจสอบคุณภาพที่มีประสบการณ์สูงก็ยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมงในการตรวจให้ครบตามแบบทดสอบ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ทันต่อการผลิตเราจำเป็นต้องทำการตรวจสอบคุณภาพให้เสร็จสิ้นภายในห้านาทีดังนั้นเราจึงสามารถตรวจสอบเฉพาะสินค้าที่สุ่มตัวอย่างเท่านั้น นี่คือแนวทางปฏิบัติทั่วไปในอุตสาหกรรมของเรา”

ทว่า วิธีการสุ่มตัวอย่างมีข้อเสียหลายประการ ประการแรกคือ การทดสอบด้วยตนเองนั้นมีประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำและไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาของผลการตรวจสอบที่ผิดพลาดและสินค้าที่ขาดการตรวจสอบได้ ประการที่สอง ต้องพึ่งพาทักษะและประสบการณ์ในระดับสูง ประการที่สามไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งที่มาซึ่งเป็นต้นเหตุของข้อบกพร่องและความล้มเหลวได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถปรับปรุง

การทำงานในขั้นตอนการผลิตอื่นๆ ให้ดียิ่งๆ ขึ้นได้

“เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว เราจึงตัดสินใจนำเทคโนโลยีดิจิทัลเช่น AI มาใช้เนื่องจากเราคิดว่าจะช่วยให้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในระบบอัจฉริยะอย่างมีประสิทธิภาพได้” Chen Chao กล่าว “หลังจากการประเมินทางเลือกอย่างถี่ถ้วนแล้ว ปรากฏว่าความแข็งแกร่งทางเทคนิคของ IIT1 และ FRDC ทำให้เรามีความประทับใจอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของประสบการณ์อันยาวนานในด้านระบบการผลิตอัจฉริยะและความสามารถในการวิจัยด้าน AI ของพวกเขาทำให้เรารู้สึกว่าจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้เป็นอย่างดี”

ร่วมสร้างโซลูชันการวินิจฉัยอัจฉริยะโดยใช้ AI

ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะการผลิต และปัญหาเฉพาะของ NGC โดยละเอียด ทาง IIT ได้ร่วมมือกับ FRDC เพื่อสร้างโซลูชันการวินิจฉัยอัจฉริยะโดยใช้ Physical-AI Hybrid Model2 โดยที่ FRDC ได้พัฒนาและใช้อัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องกับ AI และแบบจำลองทางกายภาพตามเวลา / ความถี่ จากนั้น IIT จึงใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยรวมและให้บริการด้านการใช้งานโซลูชัน

Qin Jian ผู้จัดการทั่วไปของแผนกวางกลยุทธ์ของ IIT อธิบายเกี่ยวกับระบบว่า เป็นการใช้เซ็นเซอร์การสั่นสะเทือนที่ติดตั้งบนอุปกรณ์ฟันเฟืองเพื่อรวบรวมข้อมูลสัญญาณการสั่นสะเทือนหลายมิติแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะถูกจัดเก็บ ซิงโครไนซ์และบูรณาการเข้าด้วยกัน การใช้ Physical-AI Hybrid Model ทำให้มีการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ด้วย ข้อมูลที่ตรวจพบจากย่านความถี่ต่างๆ สิ่งนี้ช่วยให้ระบบตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วว่า ผลิตภัณฑ์มีข้อบกพร่องหรือผิดพลาดหรือไม่

Dr.Sun Jun ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยไอทีของ FRDC กล่าวเกี่ยวกับโมเดล Physical-AI Hybrid ว่า “เทคโนโลยี AI กระแสหลักในปัจจุบันใช้โมเดลการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อ ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีข้อบกพร่องหรือไม่ แต่ไม่สามารถอธิบายถึงพื้นฐานที่ใช้ในการตัดสินของ AI ได้ ดังนั้นโซลูชันนี้จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้เชิงลึกและแบบจำลองทางกายภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ แต่ยังสามารถระบุย่านความถี่ของความผิดพลาดได้ด้วย จากนั้นระบบไฮบริดสามารถตัดสินใจเบื้องต้นเกี่ยวกับสาเหตุของความผิดพลาด ด้วยข้อมูลนี้ลูกค้าสามารถเชื่อถือการตัดสินของ AI ได้อย่างสมบูรณ์และก้าวไปอีกขั้นได้อย่างรวดเร็ว”



Chen Chao กล่าวว่า “ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือ AI ใหม่ๆ นี้ ทำให้เราสามารถเปลี่ยนจากการสุ่มตัวอย่างด้วยคน ไปสู่การตรวจสอบแบบอัจฉริยะอย่างมีประสิทธิภาพเราได้บรรลุการปรับปรุงแบบพลิกโฉมในกระบวนการตรวจสอบคุณภาพของเรา”

การตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นถึงสามสิบเท่าและการนำ AIไปใช้อย่างกว้างขวางขึ้น

จากการทดสอบระบบสาธิต (PoC : Proof of Concept) ทำให้ใช้เวลาในการตรวจสอบ ลดลงจากหนึ่งชั่วโมงเหลือเพียงสองนาที เท่ากับว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเท่า อัตราการตรวจจับข้อบกพร่องและความผิดพลาดมีมากกว่า 99% ยิ่งไปกว่านั้นระบบ AI ไม่เพียงแต่สามารถค้นหาย่านความถี่ที่ผิดพลาดได้เท่านั้น แต่ยังสามารถระบุสาเหตุของความผิดพลาดเบื้องต้นได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามปัญหาย้อนหลังได้ตลอดกระบวนการผลิต และวางรากฐานสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและการปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคต

IIT และ FRDC ยังวางแผนที่จะสร้างกราฟองค์ความรู้ AI 3 ของการตรวจสอบคุณภาพสำหรับ NGC สิ่งนี้ไม่เพียงจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาของกระบวนการผลิตที่มีแนวโน้มที่จะล้มเหลว แต่ยังช่วยส่งเสริมทักษะและประสบการณ์ของผู้ตรวจสอบคุณภาพอีกด้วย “การใช้กราฟองค์ความรู้ AI ทำให้เราสามารถช่วยลูกค้าสร้างฐานความรู้ด้านอุตสาหกรรมดิจิทัลได้ ดังนั้นแม้จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ก็สามารถเลียนแบบและนำประสบการณ์การตรวจสอบคุณภาพนี้ไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว”

Qin Jian กล่าวอีกว่า “โซลูชันบนแพลตฟอร์มใหม่นี้จะใช้สำหรับการตรวจจับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและการบำรุงรักษาเกียร์ทดรอบในหุ่นยนต์ ปั๊มสุญญากาศและมอเตอร์สิ่งนี้ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างมาก และช่วยให้พวกเขาก้าวกระโดดครั้งใหญ่ไปสู่การผลิตแบบอัจฉริยะ” Chen Chao กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือกับ IIT และ FRDC เราได้เปลี่ยนแปลงและยกระดับรูปแบบการตรวจสอบคุณภาพของเรา NGC จะยังคงค้นหาวิธีการสร้างสรรค์นวัตกรรมและมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนกว่าสำหรับทุกคน”

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages