รายงานผลวิจัยล่าสุด จากประเทศออสเตรเลีย ที่เผยแพร่ผ่านบทความเรื่อง Vaping Superior to Nicotine Replacement Therapy, Yet Another Study Shows โดย Cameron English ในเว็บไซต์ American Council on Science and Health (https://www.acsh.org) ระบุว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบมีนิโคตินมีประสิทธิภาพดีกว่าการบำบัดด้วยผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน (Nicotine Replacement Therapy - NRT) ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
บทความเรื่อง Vaping Superior to Nicotine Replacement Therapy, Yet Another Study Shows รายงานถึงผลการทดลองทางคลินิกล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine พบว่า “การใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคตินอย่างมีนัยสำคัญ ในการช่วยให้ผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่สามารถเลิกสูบบุหรี่และงดเว้นการสูบได้อย่างน้อย 6 เดือน แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย ผลลัพธ์นี้พบในทุกตัวชี้วัดเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่ และในทุกช่วงเวลา ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีบทบาทในการส่งเสริมการงดสูบบุหรี่ในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกบุหรี่”
การทดลองทางคลินิกดังกล่าวครั้งนี้ เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดที่เคยมี และยังชี้ไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับวงการสาธารณสุขละเลยมาอย่างยาวนาน ในการส่งเสริมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างกว้างขวาง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยเลิกสูบบุหรี่ สำหรับชาวอเมริกันจำนวนกว่า 30 ล้านคนที่ยังคงสูบบุหรี่มวน
การศึกษาทางคลินิกครั้งนี้ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยยาเสพติดและแอลกอฮอล์แห่งชาติของออสเตรเลีย (Australia's National Drug and Alcohol Research Centre) โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ที่สูบบุหรี่และมีความตั้งใจจะเลิกสูบบุหรี่ภายใน 2 สัปดาห์ และเป็นกลุ่มคนที่ได้รับสวัสดิการจากรัฐ จำนวนกว่า 1,000 คน จากซิดนีย์และพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้เข้าร่วมการทดลองถูกสุ่มให้เข้ากลุ่มใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า หรือกลุ่มใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน (NRT)
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลิกบุหรี่ได้ถึง 28.4% หรือจำนวน 148 คน ขณะที่กลุ่ม NRT มีผู้เลิกบุหรี่ได้ 9.6% หรือจำนวน 50 คน และมีความน่าจะเป็นถึง 99.9% ที่ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน ขณะที่กลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ารายงานผลข้างเคียง 237 คน รวมทั้งหมด 355 รายการ ขณะที่กลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน มีผู้รายงาน 278 คน รวม 442 รายการ หมายความว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้มีผู้ได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าประมาณ 11.5% โดยผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยทั้งสองกลุ่ม ได้แก่ การติดเชื้อโควิด-19 อาการไอ ปวดศีรษะ และคลื่นไส้ โดยในกลุ่ม VNP พบอาการไอและปวดศีรษะบ่อยกว่า ส่วนอาการคลื่นไส้พบได้มากกว่าในกลุ่ม NRT
อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ ถือว่ายังมีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน โดยนักวิจัยต้องพึ่งพาการรายงานด้วยตนเองของผู้เข้าร่วมในระดับหนึ่ง และต้องการการศึกษาที่มีผู้เข้าร่วมมากขึ้นและดำเนินการศึกษาในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น และเปิดโอกาสให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น อาจให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและลึกซึ้งมากกว่าเดิม อย่างไรก็ดี การศึกษานี้นับว่าได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบและเป็นระบบ และเป็นหนึ่งในกลุ่มของงานวิจัยกว่า 90 ฉบับ ที่รวมผู้เข้าร่วมกว่า 20,000 คน
ที่มา : https://www.acsh.org/news/2025/07/15/vaping-superior-nicotine-replacement-therapy-yet-another-study-shows-49609
No comments:
Post a Comment