นฤมล’ มอบ กพร. ร่วมกับบ.หัวเว่ย สร้างแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลป้อนตลาดแรงงาน สู่การขับเคลื่อนประเทศยุค 4.0 เน้นย้ำให้คนไทยมีงานทำ มีฝีมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อเดินหน้าประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
วันที่ 22 ตุลาคม 2563 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือสูงขึ้นทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานรวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีความรู้ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานด้านดิจิทัล รองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจในอนาคต และประเทศไทย 4.0
โดยมีนายชาคริตย์ เดชา รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายไบรอัน หลิว รองกรรมการผู้จัดการบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม มีนายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร ของหัวเว่ย ประเทศไทย และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีฯ ณ อาคาร จีทาวเวอร์ ชั้น 39 กรุงเทพมหานครศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า รัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สู่การเป็นประเทศไทย 4.0 เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและให้ความสำคัญการพัฒนากำลังคนให้มีความพร้อมรองรับการเข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อให้เกิดการจ้างงานในธุรกิจใหม่สอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงานในการพัฒนาและยกระดับฝีมือให้แก่กำลังแรงงานให้มีความรู้และทักษะฝีมือที่สูงขึ้น สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่การลงนามความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงานมีเป้าหมายในการบูรณาการภารกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนาบุคลากรฝึกของ กพร. นำไปขยายผลให้ความรู้แก่แรงงานในแต่ละพื้นที่ต่อไป
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร ของหัวเว่ย ประเทศไทย กล่าวว่าตลอดระยะเวลาสามปีข้างหน้าจะร่วมกันสร้างโอกาสการเรียนรู้และจัดการฝึกอบรมที่เน้นการพัฒนาทักษะแรงงาน รวมไปถึงการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (ReSkill)และการยกระดับทักษะเดิมให้ดียิ่งขึ้น (UpSkill)เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ช่วยลดอัตราการว่างงาน เพิ่มรายได้แรงงานไทยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้นพัฒนาด้านดิจิทัลให้แข็งแกร่ง เพิ่มจำนวนแรงงานที่มีทักษะสูงให้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve)ที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0“เราเชื่อมั่นว่าแรงงานที่แข็งแกร่งและมีทักษะสูง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมไอซีที จะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลได้สำเร็จหัวเว่ยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญและช่วยพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายเติ้ง กล่าว
ในวันนี้ ยังได้จัดพิธีมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมอาชีพเสริมสาขาการติดตั้งระบบส่งสัญญาณโทรคมนาคมในระบบ 4G และ 5Gรุ่นแรก ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลา 18 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 19-21ตุลาคม ที่ผ่านมา การจัดฝึกอบรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการนำร่องภายใต้ความร่วมมือนี้ตั้งเป้าที่จะฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่สนใจ จำนวน 300 คน ภายในระยะเวลา 3 ปีโดยครอบคลุมหัวข้อหลัก ๆ อาทิ เครือข่าย 4G และ 5Gรวมไปถึงการลงพื้นที่จริง ณ สถานีฐาน (Base Station) อีกด้วยนอกจากนี้ ยังตั้งเป้าฝึกอบรมให้กับบุคลากรฝึกของกรม จำนวน 120 คนและฝึกอบรมออนไลน์ให้แก่บุคคลทั่วไปจำนวน 3,000 คนซึ่งภายหลังการฝึกอบรมครบตามข้อกำหนดผู้จบหลักสูตรจะได้รับวุฒิบัตรรับรองทักษะความรู้ที่สามารถนำไปเป็นหลักฐานในการ สมัครงานและยกระดับการประกอบอาชีพในอนาคต
“ขอขอบคุณหัวเว่ย ที่ได้มาผนึกกำลังกับภาครัฐในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายนับว่ามีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อพัฒนาบุคลากรของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำไปขยายผลและจัดโครงการให้ความรู้แก่แรงงานในแต่ละพื้นที่ต่อไป เรามุ่งมั่นที่จะกระตุ้นทั้งเศรษฐกิจและสังคมให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พร้อม ๆไปกับการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0” รมช.แรงงาน กล่าวในท้ายสุด
No comments:
Post a Comment