AKP ใจดีจ่ายปันผลหุ้นละ 0.023 บาท ปีนี้เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่าควบคู่การสร้างฐานลูกค้าใหม่

บอร์ด AKP ใจดีสั่งจ่ายปันผลงวดปี 63 หุ้นละ 0.023 บาท หลังประกาศผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ 34.65 ล้านบาท “วันชัย เหลืองวิริยะ” แม่ทัพใหญ่เผยปี 64 เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่าควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ส่วนผลกระทบโควิด-19 หนุนกลุ่มลูกค้าใหม่ใช้บริการกำจัดขยะมีพิษเพิ่มขึ้น

นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP ผู้บริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย ด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับผลประกอบการงวดปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.023 บาท โดยกำหนดจ่ายวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 หลังประกาศผลประกอบการปี 2563 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563 มีกำไรสุทธิ 17.87 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.086 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.077 บาท

ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 และได้กำหนดให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้น 27 เมษายน 2564 เพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าว โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวันที่ 18 มีนาคม 2564

นายวันชัย กล่าวว่า ในการดำเนินธุรกิจปี 2564 นี้ AKP ยังคงเผชิญความท้าทายในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจโดยรวมที่ถูกกระทบจากปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ทำให้การดำเนินงานในหลายๆ องค์กรต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ผลประกอบการแต่ละองค์กรปรับลดลงในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจากการลดกำลังการผลิตส่วนหนึ่งทำให้ขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดมีปริมาณลดลงตามไปด้วย

โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าเก่าควบคู่ไปกับการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ รวมทั้งใช้มาตรการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยนำประโยชน์จากการใช้พลังงานความร้อนจากการกำจัดของเสียอุตสาหกรรมมาทดแทนการใช้เชื้อเพลิง หรือก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นโยบายที่สำคัญอย่างหนึ่งของบริษัทฯคือ มุ่งสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งมีองค์ประกอบของ ESG คือ Environment, Social, Governance และ Circular Economy

“ปีนี้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยยังถูกกระทบจากปัญหาโควิด-19 และถึงแม้ปัจจุบันเริ่มมีการใช้วัคซีนแล้วแต่ยังถือว่าหลายภาคส่วนยังมีความยากลำบากในการทำงาน ซึ่งการทาง AKP เองยังคงเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่าควบคู่ไปกับการสร้างฐานลูกค้าใหม่ วางนโยบายลดค่าใช้จ่ายในองค์กรและรักษาระยะห่างทางสังคม ส่วนโควิด-19 ประเมินว่าจะสนับสนุนให้กลุ่มลูกค้าใหม่ใช้บริการ AKP ในการกำจัดขยะมีพิษเพิ่มขึ้น” นายวันชัย กล่าว