“keyword คือ ความคิดในการสรรค์สร้างทุนทางวัฒนธรรมให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่ง วช. ได้ทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา โดยให้ความสำคัญวางเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จตามยุทธศาสตร์ ววน. ปี 2563-2565 ทำให้เห็นผลสำเร็จ และยุทธศาสตร์ ววน. ปี 2566-2570 จะยกระดับงานทางสังคมไปสู่ความยั่งยืน สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ จะเห็นว่าการใช้ประโยชน์จากผู้นำทางความคิดที่เป็นปราชญ์ ภูมิปัญญา ความรู้ ศิลปกรรม เป็นโจทย์ที่ท้าทายจึงนำไปสู่การส่งเสริมงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตามที่ รมว. อว. มอบนโยบาย
ผลงานวิจัยด้าน Creative Economy ที่ วช. ให้ทุนสนับสนุน จะเป็นเรื่องของการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ซึ่งมีงานวิจัยเด่น ๆ อาทิ เทคนิคการออกแบบลาวพร่าเลือน ในงานไหมมัดหมี่ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นงานที่ทำให้ผ้ามัดหมี่ มี อัตลักษณ์ เกิดลวดลายที่เป็นที่ต้องการของตลาด การอนุรักษ์งานศิลปกรรมที่นครศรีธรรมราช และที่ วช. ภาคภูมิใจ คือ งานวิจัยที่ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร และทำให้องค์การยูเนสโก ประกาศให้เพชรบุรีเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของโลกซึ่งผลงานวิจัยนี้ถือเป็นต้นแบบของการประเมินโดยหน่วยงานระดับนานาชาติ เป็นการบ่งชี้ว่า ววน. เป็นส่วนสำคัญ ทำให้จังหวัดเพชรบุรีใช้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาทำงานร่วมกับ วช. เป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ใช้งาน ววน. มาทำให้เกิด Creative Economy
ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในอนาคต Creative Economy จะมีความสำคัญมาก และจะเป็นทางรอดของประเทศไทย เพราะจากนี้สุภาษิตตกปลาเป็นไม่พอแล้ว ทุกประเทศตกปลาเป็นหมด แต่สิ่งที่จะทำให้อยู่รอดคือ การสร้างมูลค่า ในมหาวิทยาลัยต้องสอนให้เพิ่มมูลค่า ถ้าศึกษาชีวิตของคนดังอย่าง สตีฟ จ๊อบ, บิล เกทส์ ,มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ล้วนไม่ได้เรียนตามปกติ แต่ชอบทำสิ่งที่ท้าทาย และมีโอกาสและจังหวะชีวิตที่ดี จังหวะชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ละช่วงชีวิตจะมีคนที่เป็น Key person สร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ การที่จะสร้างมูลค่าสิ่งใดได้เราจะต้องสร้างความเป็น Creative และจะต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง
สำหรับผลงานวิจัยด้าน Creative Economy ของมหาวิทยาลัยมหิดล อาทิ สุดสาครออเครสตร้า มหัศจรรย์หุ่นไม้จันทร์หอม แฮรี่พอตเตอร์ ออเครสตร้า โครงการอุทยานฯ เป็นต้น
No comments:
Post a Comment