ปัญหาหมอกควันที่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคเหนือของประเทศไทยได้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายเดือน จากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนขึ้นทุกปีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาฝุ่นควันทวีความรุนแรง นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าสาเหตุของการเกิดปัญหาหมอกควันนั้นส่วนใหญ่เกิดจากไฟป่า การเผาวัชพืช เศษพืชที่เหลือจากการเกษตร และเมื่อควันจากการเผาอยู่ในภาวะความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมาปกคลุม จึงทำให้หมอกควันไม่สามารถลอยตัวขึ้นเหนือชั้นบรรยากาศระดับสูงได้ ทำให้หมอกควันกระจายอยู่ตามพื้นดินและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนไทยเป็นอย่างมาก
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ดำเนินงานในพื้นที่สูงส่วนใหญ่ของประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์การป้องกันไฟป่าและลดการเผาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2566 สวพส. ได้รณรงค์การป้องกันไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่ดำเนินงาน ชิงเก็บเศษไม้ เศษวัชพืชก่อนเผา นำเศษพืชจากการเกษตรมาทำเป็นปุ๋ยหมัก จัดทำฝายชะลอน้ำและแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผืนป่า แต่ด้วยปัญหาหมอกควันที่รุนแรงและกินระยะเวลายาวนานในปีนี้สวพส. จึงร่วมกับ อปท. 44 พื้นที่ ภายใต้การดำเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และกาญจนบุรี ได้เร่งการป้องกันไฟป่าและลดการเผาอย่างเข้มข้น ครอบคลุมพื้นที่ทำกินและพื้นที่ป่า 1,203,426 ไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประวัติการเกิด Hotspot เน้นย้ำให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ลดการเผา ร่วมกันจัดทำแนวกันไฟ
No comments:
Post a Comment