ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการ “การพัฒนาวัสดุยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติกตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ BCG” เป็นผลงานของ ดร.ณัฐพนธ์ อุทัยพันธุ์ แห่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ วช. ให้การสนับสนุน เพื่อนำองค์ความรู้จากยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้มาผสมกับขยะพลาสติก เพื่อผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือกระเป๋าสร้างรายได้แก่คนในชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ งานวิจัยนี้ถือเป็นการตอบโจทย์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วช. จึงให้ความสำคัญและพร้อมขับเคลื่อนงานวิจัยใหม่ ๆ ให้กับชุมชนต่อไป
ดร.ณัฐพนธ์ อุทัยพันธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีอาชีพเป็นเกษตรกรสวนยางพารา จึงดำเนินการวิจัยเพื่อยกระดับยางพารา ให้สามารถแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ ให้มีความมั่นคงทางด้านรายได้ โดยทางทีมวิจัยได้จัดทำงานวิจัยเป็นเส้นหวายเทียม จากยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก เพื่อลดการใช้พลาสติก ซึ่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลในปัจจุบัน โดยขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมให้มีการแปรรูปหวายเทียมจากยาง สานเป็นกระเป๋าแฟชั่น และสินค้าอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ตลาดสินค้าแฟชั่นภายในประเทศ พร้อมขยายเป็นอาชีพแก่กลุ่มคนเปราะบางในพื้นที่ ให้มีรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. และสื่อมวลชน ได้เดินทางไปวิสาหกิจชุมชนจักสานยางพาราจังหวัดสตูล ตำบลป่าแก่บ่อหิน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูต เพื่อเยี่ยมชมการทำกระเป๋าและเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำจากหวายเทียม โดยมี นางสาวสุชาดา นาคเล็ก ประธานวิสาหกิจชุมชนจักสานยางพาราจังหวัดสตูล ในการต้อนรับ และเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของการก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนจักสานยางพาราจังหวัดสตูล ว่า นักวิจัยได้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงและคอยให้คำปรึกษา ทำให้รู้สึกว่าโครงการของ U2T เป็นโครงการที่ดี แต่ระยะเวลาสั้น ฉะนั้นทางกลุ่มไม่สามารถต่อยอดเพิ่มเติม จึงได้ไปเรียนรู้วิธีการสานเพิ่มเติมที่ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพราะทางนั้นชำนาญ และมีวิธีการสานที่ปราณีตและมีการเล่นรวดลายดีกว่า จนกลับมาที่กลุ่มก็สามารถสานเองได้ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย อาทิ กระเป๋าสาน เก้าอี้ และโต๊ะ ด้วย
No comments:
Post a Comment