GLASSIQ บุกทำเลทองใจกลางสุขุมวิท เปิดแฟล็กชิพสโตร์ชูประสบการณ์ Omni-channel ครั้งแรกเผยกลยุทธ์ 4 ข้อเด่น ทำไมกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องถูกใจและเลือกซื้อ-ใช้บริการ ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 10,000 ตัวในปี 2024 - The Siamese

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, December 21, 2023

GLASSIQ บุกทำเลทองใจกลางสุขุมวิท เปิดแฟล็กชิพสโตร์ชูประสบการณ์ Omni-channel ครั้งแรกเผยกลยุทธ์ 4 ข้อเด่น ทำไมกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องถูกใจและเลือกซื้อ-ใช้บริการ ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 10,000 ตัวในปี 2024

 

กรุงเทพฯ 20 ธันวาคม 2566 – Glassiq (กลาสสิค) สตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย ภายใต้ บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด (Vision Ventures) ผู้นำอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสายตาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ครั้งแรก “Glassiq @Emsphere” (กลาสสิค แอท เอ็มสเฟียร์) ชั้น 2 ทำเลทองใจกลางสุขุมวิทแห่งใหม่ ชูคอนเซปต์ร้านมุ่งแก้ไขช่องโหว่การจำหน่ายแว่นตาแบบเดิมที่มีราคาสูงและมากขั้นตอน พร้อมผนวกเทคโนโลยี Omni-Channel เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ผู้เป็นคนฉลาดเลือก (Smart Buyer) สัมผัสประสบการณ์การเลือกซื้อแว่นที่แตกต่างด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลช่วยค้นหาแว่นตามความต้องการ พร้อมกับ Inspiration Lookbook ตอบโจทย์คาแรคเตอร์ผู้สวมใส่แว่นให้พิเศษยิ่งกว่าเคย

นายพิริยะ ตันตราธิวุฒิ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์แว่นตา Glassiq และ CMO บริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “Glassiq ก่อตั้งเมื่อปี 2016 โดยวางจำหน่ายรูปแบบออนไลน์อย่างครบวงจร ด้วยคอนเซปต์จากการเห็น pain point การจำหน่ายแว่นตาแบบเดิมที่มีราคาสูงและขั้นตอนที่มากมาย จึงต้องการทำร้านแว่นที่เน้นความสะดวก สบาย ทันสมัย และเป็นมิตร ถัดมาในปี 2022 Glassiq ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท วิชั่น เวนเจอร์ส จำกัด และได้ทำการรีแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ Glassiq ที่เดิมใช้ชื่อว่า Glazziq เพื่อให้จดจำง่ายพร้อมเปลี่ยนโลโก้ (Logo) ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2023 พร้อมแฟล็กชิพสโตร์ครั้งแรก “Glassiq @Emsphere” (กลาสสิค แอท เอ็มสเฟียร์) ชั้น 2”



โดยกลยุทธ์ของการเปิดร้าน Glassiq จะเน้นความเป็น Omni-channel สร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่องระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าของ Glassiq เป็นกลุ่มคนวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่เป็นคนฉลาดเลือก (Smart buyer) ไม่ได้ยึดติดกับการซื้อของแบรนด์เนม แต่มองหาของที่ใช้ได้ดีในราคาที่คุ้มค่า และเน้นประสบการณ์ที่ดีที่หน้าร้าน โดยทีม Glassiq ยังได้นำเอาเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ลูกค้าสนุกกับการซื้อแว่นมากขึ้น รวมถึงสามารถค้นหาแว่นรุ่นโปรดได้ง่าย


นายพิริยะ กล่าวต่อว่า “แม้ Glassiq เป็นสตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย ที่เพิ่งทลายกรอบจากร้านค้าออนไลน์ร้อยเปอร์เซ็น ก้าวสู่การเปิดร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่ผสมผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ครั้งแรก แต่มั่นใจในจุดเด่นครอบคลุม 4 ด้าน ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เริ่มที่ 1. สินค้าคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ในราคาที่เข้าถึงได้ แว่นตาของ Glassiq มีดีไซน์ที่สวย คุณภาพดี ตอบโจทย์คนไทยเพราะทีมงาน Glassiq ออกแบบเอง และผลิตกับโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้วัสดุคุณภาพและกระบวนการผลิตแว่นตา ทำให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผล”

อีกทั้งยังมีพาร์ทเนอร์โดยตรงกับ Thai Optical Group หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกเลนส์รายใหญ่ชั้นนำของโลก ทำให้ได้เลนส์สายตาที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยราคาสินค้า กรอบพร้อมเลนส์เริ่มต้น 1,990 บาท สำหรับเลนส์สายตาจะได้รับเลนส์ย่อบาง 1.6 หรือ 1.67 ฟรี หรือ สำหรับเลนส์ที่ไม่มีค่าสายตา สามารถเปลี่ยนเป็น เลนส์ย้อมสีแฟชั่น หรือ เลนส์กันแดดได้ และสำหรับเลนส์สายตา สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ดังนี้ อัปเกรดกันแสงสีฟ้า +3,000 บาท อัปเกรด เปลี่ยนสีอัตโนมัติ +3,000 บาท กันแสงสีฟ้า และเปลี่ยนสีอัตโนมัติ +4,500 บาท (ลดจากราคา 6,000 บาท)

ถัดมา 2. เน้นความเป็น Omni Channel เทคโนโลยีทันสมัย ลูกค้าสามารถเลือกซื้อแว่นได้ง่ายเหมือนการซื้อเสื้อผ้า เพียงเข้าเว็บไซต์เพื่อดูกรอบแว่นจากแคตตาล็อก ศึกษารายละเอียดของแว่นแต่ละรุ่นได้ตั้งแต่ที่บ้าน ซึ่งเว็บไซต์ออกแบบให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์ ใช้ง่าย รวมถึงมีให้ทดลองเล่นฟิลเตอร์กรองหาแว่นที่เหมาะสมกับความต้องการ มี Inpiration Lookbook ให้เลือกดู และสามารถเช็ค Product Availability จากเว็บไซต์ได้ว่า มีสินค้าให้ลองที่หน้าร้านหรือไม่ และระหว่างเลือกดูสินค้าที่ร้าน หากต้องการรู้สตอรี่ของแว่นตาเพิ่มเติม ก็ทำได้ง่ายเพียงแค่สแกน QR Code สินค้านั้นๆ นอกจากนี้ ร้านของ Glassiq ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่สุด เช่น สายพานที่ช่วยส่งแว่นเข้าห้องฝนเลนส์อัตโนมัติได้รวดเร็ว เครื่องฝนเลนส์ที่มีความแม่นยำ และเครื่องวัดสายตารุ่นล่าสุดที่วัดได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

3. สร้างประสบการณ์ Glassiq เพื่อนรู้ใจ พร้อมเสิร์ฟที่ Eyewear Bar บรรยากาศของร้าน Glassiq จะเป็นพื้นที่เปิด เดินเข้า-ออกได้สะดวก ช่วยให้ลูกค้าเดินเลือกชมสินค้า ดูข้อมูลสินค้าได้อย่างอิสระ ไม่กดดัน โดยที่ร้านจัดกิมมิก Eyewear Bar ที่นั่งคุยระหว่างลูกค้ากับพนักงานของ Glassiq ที่เปรียบเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ให้คำแนะนำเรื่องสายตา กรอบแว่น เลนส์ การเลือกแว่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่ลูกค้ามองหาได้

และสุดท้าย 4. ให้บริการเยี่ยมพร้อมการันตีการเทรนพนักงานจากสถาบันที่เชี่ยวชาญ ลูกค้าสามารถรอรับกรอบแว่นพร้อมเลนส์ที่หน้าร้านได้เลยภายใน 20 นาที หลังจากชำระเงิน (ยกเว้นกรณีที่ลูกค้ามีค่าสายตาซับซ้อน) โดยพนักงานของ Glassiq ทุกท่านได้ผ่านการเทรนจาก BVAX Academy (Better Vision Accuracy Expertise Academy) ที่เชี่ยวชาญในการวัดสายตา ตัด ประกอบ ปรับและดัดแว่นตา นอกจากนี้ยังมี การรับประกันสินค้า BVAX Warranty เปลี่ยนเลนส์ได้ฟรีภายใน 1 ปีหากใส่ไม่สบาย และบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานมอบให้ด้วย

“การเปิดร้าน “Glassiq @Emsphere” (กลาสสิค แอท เอ็มสเฟียร์) ชั้น 2 นับเป็นอีกความท้าทายครั้งใหญ่ที่ Glassiq สตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย ตั้งใจมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่คนรุ่นใหม่วัยรุ่นและวัยทำงาน ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 10,000 ตัวภายใน 2024” นายพิริยะ กล่าวทิ้งท้าย



ร่วมสัมผัสประสบการณ์การทำแว่นตาแบบใหม่ในเวอร์ชันที่ไม่เหมือนใคร ที่ร้าน Glassiq ชั้น 2 Emsphere หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages