โครงการ Solar Carpark ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แล้วเสร็จพร้อมใช้งาน - The Siamese

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, December 13, 2023

โครงการ Solar Carpark ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แล้วเสร็จพร้อมใช้งาน

 pic%203-%E2%80%9CWHAUP%E2%80%9D%20%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%20Ford%20Solar%20Carpark%20%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%207.7%20MW


กรุงเทพฯ – บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ติดตั้งโครงการ Solar Carpark ซึ่งถือเป็นโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) แล้วเสร็จพร้อมใช้งาน รวมพื้นที่หลังคา 59,000 ตารางเมตร มีขนาดไฟฟ้ารวม 7.7 เมกะวัตต์ และพร้อมเปิดดำเนินการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ในต้นปี 2567 ด้าน CEO “สมเกียรติ เมสันธสุวรรณ” ส่งซิกลุยลงทุนสาธารณูปโภคและพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในประเทศและต่างประเทศ มุ่งสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ (“WHAUP”) เปิดเผยว่า ภายหลังที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาลานจอดรถ (Solar Carpark) ของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) ที่มีพื้นที่หลังคา 59,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 7.7 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 235 ล้านบาท ล่าสุดโครงการดังกล่าวได้ติดตั้งแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นโครงการ Solar Carpark ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 โดยโครงการดังกล่าวติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ตามมาตรฐาน NEC2020 (National Electrical Code) หรือมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้าระดับโลกสำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศให้กับลูกค้า

“บริษัทฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) ให้ความเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐานและการดูแลในระยะยาวของ WHAUP ซึ่งโครงการนี้เราให้บริการในรูปแบบครบวงจรตั้งแต่การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การลงทุน การออกแบบ ขอใบอนุญาต การก่อสร้างและการติดตั้งไปจนถึงการดูแลบำรุงรักษาตลอดอายุสัญญา แน่นอนว่าการเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์นี้ จะช่วยให้เราสามารถผลักดันการใช้พลังงานสะอาด ลดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ เพื่อแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม” นายสมเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเพิ่มเติมว่า ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้า ยังมีแนวโน้ม ขยายตัวอย่างโดดเด่น จากการเติบโตของลูกค้าในกลุ่ม WHA Group ซึ่งส่งผลบวกต่อความต้องการใช้น้ำและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโครงการใหม่ๆ ด้านสาธารณูปโภคและพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อมุ่งเน้นสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ภายหลังจากการเปิดดำเนินการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ Ford Solar Carpark ในครั้งนี้ ส่งผลให้ WHAUP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 113.7 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 106 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 847 เมกะวัตต์

ด้าน มร. วินโค้ ซาริค ผู้จัดการโรงงาน ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง กล่าวว่า “ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี้ ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่าภายในปี พ.ศ. 2578 จะใช้พลังงานสะอาด 100%ในกระบวนการผลิตรถยนต์ทั่วโลก และการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากร่มเงาจากแผงโซลาร์จะช่วยรักษาคุณภาพรถก่อนกระจายไปยังผู้แทนจำหน่ายฟอร์ดทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของบริษัทฯ ได้ในระยะยาว ที่สำคัญ ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศกว่า 5,720 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และพนักงานของเราได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและไม่ร้อนมากจนเกินไป”

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages