สวก. จัดใหญ่ จัดเต็ม!! โชว์ผลงานวิจัยเด่น 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก พลิกโฉมเกษตรไทยสู่สากล 20 - 21 พ.ย.นี้ ที่ ศูนย์สิริกิติ์ฯ - The Siamese

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Tuesday, November 21, 2023

สวก. จัดใหญ่ จัดเต็ม!! โชว์ผลงานวิจัยเด่น 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก พลิกโฉมเกษตรไทยสู่สากล 20 - 21 พ.ย.นี้ ที่ ศูนย์สิริกิติ์ฯ



สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. จัดงานประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร โชว์ศักยภาพงานวิจัย กับ 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก ในงาน “เปลี่ยนวิถีเกษตรไทยด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” ยกระดับประสิทธิภาพภาคเกษตร เพื่อแสดงถึง การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานวิจัยด้านการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับกลไกการขับเคลื่อนประเทศไทยจากการเกษตรแบบเดิมไปสู่ยุคการเกษตรที่ขับเคลื่อนด้านนวัตกรรม ตอบโจทย์รัฐบาล ให้เกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ระหว่างวันที่ 20 - 21 พ.ย.นี้ ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์





ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ของการจัดตั้งสำนักงานฯ จึงได้จัดงานประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร ภายใต้หัวข้อ “เปลี่ยนวิถีเกษตรไทย ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” โดยการจัดงานครั้งนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดการประชุมฯ พร้อมพระราชทานโล่รางวัล ให้กับนักวิจัยดีเด่น และงานวิจัยดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ได้แก่

1.รางวัลโครงการวิจัยดีเด่น ได้แก่ ชุดโครงการความต้องการโภชนะของโคนมในประเทศไทย (กรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น) 2. รางวัลนักวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2566 ได้แก่ ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3.รางวัลนักเรียนทุน สวก.ที่มีผลงานวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2566 ได้แก่ นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซึ่งมีผลงานวิจัยที่สนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านดิจิทัล (Big data) ด้านการเกษตรของประเทศไทยสู่เวทีโลก 4. รางวัลผู้ประกอบการ สวก. ดีเด่น ที่นำผลงานวิจัยด้านการเกษตรไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ บริษัท ไฟโตไบโอติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด





สำหรับการจัดงานครั้งนี้ จัดภายใต้ธีมงาน “พลิกโฉมเกษตร สู่ตลาดสากล ด้วย 6 เมกาเทรนด์เปลี่ยนโลก” โดยนำผลงานความสำเร็จจากงานวิจัยและนวัตกรรมของ สวก.และเครือข่ายพันธมิตร มาจัดแสดงภายในงาน ประกอบด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่

1.นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นำเสนอผลงานของ สวก. ที่สนองพระราชปณิธานด้านการเกษตร เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรในประเทศไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่องานวิจัยด้านการเกษตรของไทย

2.นิทรรศการ 20 ปี สวก. และ ARDA Award นำเสนอผลงานวิจัยเด่นของ สวก. ในรอบ 20 ปี ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ที่ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร รวมถึงสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยเป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมในด้านต่างๆ อาทิ

• Smart Farm for Future Agriculture

• Machinery Plus for Value Added

• Miracle of Biodiversity

• Food for the Future

• Better Forecast for Better Life

• Policy for Life and Trade

3.โซนนิทรรศการ 6 Mega Trends เปลี่ยนโลก นำเสนองานวิจัยที่ร่วมขับเคลื่อนและพัฒนา ภาคเกษตรไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก ประกอบด้วย

1) Agritechnology

2) Coffee & Tea

3) Food & Beverage

4) BCG

5) Health & Beauty

6) Agricultural Sustainability

4.โซนนิทรรศการของหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยในระบบ ววน.นำเสนอ บทบาท ภารกิจและผลงานของหน่วยงานบริหารจัดการทุนวิจัยในระบบ ววน. ที่ทำหน้าที่ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและบริหารงบประมาณวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

 







สำหรับตัวอย่างผลงานวิจัยเด่นที่จัดแสดงภายในงาน อาทิ เทคโนโลยีน้ำแข็งเหลวโอโซน หรือ Slurry ice สำหรับยืดอายุการเก็บรักษาสัตว์น้ำ สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหารทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ปลากะพงขาวที่เก็บรักษาในน้ำแข็งเหลวโอโซน พบว่า ไม่มีจุลินทรีย์ก่อโรค ตลอดช่วงระยะเวลาในการเก็บรักษานานถึง 12 วัน นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย ที่น่าสนใจ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนสูงจากไข่น้ำ/ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนวัตกรรมสมุนไพรจากพลูคาว / ผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจลสมานแผล / ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงจากสารสกัดข้าวสังข์หยด

ภายในงานยังมีปาฐกถาและการบรรยายที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ภาพรวมผลกระทบที่มีต่อภาคเกษตร และการเตรียมการรับมือ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” โดย นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการ สศก. / การบรรยาย หัวข้อ “เกษตรไทยจะเปลี่ยนไปด้วยวิจัยและพัฒนา" โดยท่านปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ / การเสวนา หัวข้อ “ก้าวทันสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไป กับอนาคตเกษตรไทยเปลี่ยนแปลง” และหัวข้อ “นวัตกรรมอาหารไทย สู่ความมั่นคงอาหารโลก” ส่วนในวันที่ 21 พฤศจิกายน ยังมีพิธีลงนาม MOU การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ระหว่าง สวก. กับ องค์การเภสัชกรรม และ MOU การพัฒนางานด้านปศุสัตว์ ระหว่าง สวก. กรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกด้วย

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานรวมทั้งนำเสนอความสำเร็จและความภาคภูมิใจของ สวก. แล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพงานวิจัย และยังต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย ได้มาศึกษาหาความรู้ อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร รวมถึงเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน นักลงทุนและนักธุรกิจได้พบปะนักวิจัยและสัมผัสกับงานวิจัยของจริง เพื่อนำผลงานวิจัยไปต่อยอดในเชิงธุรกิจต่อไปด้วย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad

Pages