บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายยังทำผลงานเติบโตต่อเนื่อง เหตุรันธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า โครงการพลังงานลมได้ตามแผน พร้อมอัดงบลงทุน 5 ปี ( 2567-2571) ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท ต่อยอดธุรกิจ ฟาก “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ประกาศพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพและภาพรวมธุรกิจในไตรมาส4/2566 ว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินการอยู่ในทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาสม่ำเสมอ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเติบโตของประเทศ และเทรนด์ธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต
นอกจากนี้ยังทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตจากโครงการใหม่ๆ และจากงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่ปัจจุบันมีงานอยู่ในมือ (Backlog) กว่า 6,000 ล้านบาท และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่ม จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ปี 2566 จะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้คือ ไม่ต่ำกว่า 15%
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ เล็งเห็นการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต จึงได้วางงบลงทุนใน 5 ปี (ปี 2567-2571) ไว้กว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจทุกภาคส่วน โดยใช้เงินในส่วนทุนของบริษัทฯ ประมาณ 8,000 ล้านบาท
นางสาวโศภชากล่าวต่อว่าธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า โครงการพลังงานลมที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3 เดือน และ 9 เดือนที่ผ่านมาแม้บริษัทฯ จะถือสัดส่วนเพียง 50% แต่ยังสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ โดยเห็นได้กำไรจากการดำเนินงานตามปกติของกิจการ ไม่นับรวมกำไรจากการเปลี่ยนแปลงส่วนได้ส่วนเสียในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้า กำไรจากตราสารอนุพันธ์ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิและขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงินลงทุน กำไรสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 426.26 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 221.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 204.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 92.32% สำหรับงวด 9 เดือน กำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,321.31 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรเพียง 917.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 43.99%
จากการที่กลุ่มบริษัทฯ มีการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนโดยให้ความสำคัญต่อการรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) และการกำกับดูแลกิจการที่ดีผ่านโครงการต่าง ๆ ทำให้ GUNKUL ได้รับผลประเมิน SET ESG Ratings ปี 2566 ระดับ AA และติดรายชื่อหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทฯ มีการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน พร้อมรับมือต่อปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วม และตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
No comments:
Post a Comment